ประวัติของวัด

ประวัติวัดบางกะดี

ตำบลบางกะดี อำเภอเมืองฯ จังหวัดปทุมธานี

                วัดบางกะดี ตั้งอยู่เลขที่ ๗๘ บ้านบางกะดี หมู่ที่ ๔ ตำบลบางกะดี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินของวัดทั้งหมดมีจำนวน ๖๓ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา ตามโฉนดเลขที่ ๖๗๗,๖๗๘ เป็นที่ดินที่ตั้งวัดเนื้อที่ ๓๑ ไร่ ๑ งาน ๓๒ ตารางวา ตามโฉนดเลขที่ ๖๗๗,๖๗๘ และที่ดินธรณีสงฆ์จำนวน ๙ แปลง มีเนื้อที่ ๓๒ ไร่ ๒ งาน ๖๘ ตารางวา ตามโฉนดเลขที่ ๗๐๑,๗๐๒,๗๐๓,๗๐๔,๗๐๕,๗๐๖,๗๐๗,๖๐๐,๖๐๗ พื้นที่วัดเป็นที่ราบลุ่มใกล้คลองเชียงราก                                                         
                          สภาพของวัดมีอาณาเขตดังนี้                               
                                 ทิศเหนือ ยาว ๗ เส้น ๑๐ วา ติดต่อกับที่ดินเอกชน
                                 ทิศใต้ ยาว ๗ เส้น ๑๐ วา ติดต่อกับคลองเชียงราก
                                 ทิศตะวันออก ยาว ๕ เส้น ๑๐ วา ติดต่อกับที่ดินเอกชน
                                 ทิศตะวันตก ยาว ๕ เส้น ๑๕ วา ติดต่อกับที่เอกชน
                  ตามประวัติเดิม วัดบางกะดี ได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๖ โดยหลวงปู่ปิ่น เป็นผู้ดำเนินการสร้าง เดิมมีนามว่า “วัดบางกะดีไทย”  จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดบางกะดี”(ไม่มีคำว่า ไทย) เมื่อปี ๒๔๕๐ วัดนี้คาดว่ามีอายุเก่าแก่พอสมควร โดยเฉพาะอุโบสถ์หลังเก่าที่รื้อแล้ว ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๐ และได้ผูกพัทธสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๖ ปัจจุบันวัดบางกะดีมีอาคารเสนาสนะถาวรที่มีอยู่ ดังนี้
                 ๑.      อุโบสถ(หลังใหม่) ๑ หลัง สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ และได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๘
                 ๒.      กุฏิสงฆ์ ๑๐ หลัง
                 ๓.      กุฏิเจ้าอาวาส ๑ หลัง
                 ๔.      หอสวดมนต์ ๑ หลัง                
                 ๕.      หอฉันท์ ๑ หลัง
                 ๖.      หอระฆัง ๒ หลัง
                 ๗.      ศาลาการเปรียญ(หลังใหม่) ๑ หลัง
                 ๘.      ศาลาเอนกประสงค์ ๑ หลัง
                 ๙.      ศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง                
                 ๑๐. ศาลาฌาปนสถาน(เมรุ) ๑ หลัง                
                 ๑๑. ศาลากองทุนหมู่บ้าน ๑ หลัง
                 ๑๒. เจดีย์ ๒ หลัง
                 ๑๓. มณฑป ๑ หลัง              
                 ๑๔. ถังเก็บน้ำบาดาลหมู่บ้าน ๒ ถัง                
                 ๑๕. โบราณวัตถุ
                         -          พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสมัยเชียงแสน ๓ องค์
                         -          พระบางมารวิชัยดอกพิกุน ๑ องค์
                         -          ตู้พระไตรปิฎกลายลดน้ำ ๓ ใบ                
                 ๑๖. ปูชนียวัตถุ
                         -          รูปหล่อจำลองหลวงปู่เนตร
                         -          รูปหล่อจำลองหลวงพ่อมณฑา
                         -          รอยพระพุทธบาทจำลอง
                  ประเพณีที่สำคัญที่ทางทางปฏิบัติ จากอดีตจนถึงปัจจุบันได้แก่ ประเพณีสงกรานต์, ประเพณีลอยกระทง, ประเพณีทำบุญหลังวัด, ประเพณีตักบาตรเทโว, ประเพณีตักบาตรพระร้อยและประเพณีปิดทองไหว้พระประจำปี เป็นต้น
                  นามผู้เป็นเจ้าอาวาสในอดีตตั้งแต่สร้างวัดจนถึงปัจจุบัน จำนวน ๘ รูปคือ
       ๑.      พระอธิการปิ่น                                       ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๒๖ – ๒๓๓๐ เป็นระยะเวลา ๔ ปี     
       ๒.      พระอธิการวร                                        ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๓๐ – ๒๔๔๐ เป็นระยะเวลา ๑๐ ปี     
       ๓.      พระเจ้าอธิการสุเนตร                           ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๐ – ๒๔๔๕ เป็นระยะเวลา ๕ ปี      
       ๔.      พระอธิการสง่า เตโช                            ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๕ – ๒๔๖๕ เป็นระยะเวลา ๒๐ ปี    
       ๕.      พระอธิการฉาบ                                    ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๕ – ๒๒๔๗๐ เป็นระยะเวลา ๕ ปี      
       ๖.      พระอธิการเจียม อิสสโร                       ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๐ – ๒๕๐๐ เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี      
       ๗.      พระครูชัยธรรมาภินันท์                        ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๔๐ เป็นระยะเวลา ๔๐ ปี      
       ๘.      พระครูสมุห์น้อย ฐานุตตโร                  ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๐ – ปัจจุบัน